สรุป live ของ อ. ณัฐวุฒิ เผ่าทวี เรื่องพฤติกรรมคนในสถานการณ์ Covid-19

เราเข้าใจความเสี่ยงกันแค่ไหน

Teerayut Hiruntaraporn
1 min readMar 22, 2020

ถ้าเราไปดูงานวิจัยผลของ Covid กับ สุขภาพ ของ Imperial College จะเห็นว่า
Covid-19 ส่งผลกับคนที่อายุน้อย น้อยมากเพื่อเทียบกับคนอายุเยอะ เช่น

คนที่อายุ 20 มีโอกาสติด 1.2% ตาย 0.03% ขณะที่คนอายุ 80 ขึ้นไป โอกาสติด 27% ตาย 10%

CR: Impact of non-pharmaceutical interventions (NPIs) to reduce COVID19 mortality and healthcare demand, Imperial College COVID-19 Response Team, 16 Mar 2020

อันนี้เป็นเคสของอังกฤษ ในกรณีของไทย อาจจะต้องมีค่าความเสี่ยงเพิ่มขึ้น จากความเหลื่อมล้ำหรือความเป็นเมืองหรือชนบท

สิ่งที่ต้อง Overreact คือเราอาจจะนำพาความเสี่ยงไปหาผู้สูงอายุที่อยู่ในบ้าน เพราะเราโอกาสเป็นน้อย อีกทั้ง Covid-19 ไม่เกิดอาการทันที

ปัญหาคือ มันอาจไม่น่ากลัวสำหรับเรา แต่น่ากลัวต่อผู้สูงอายุของเราในบ้าน

ทำไมคนกลัวแต่ไม่เปลี่ยนพฤติกรรม

เรามองซ้ายมองขวาไม่เห็นคนที่ติดเชื้อ

เรามองซ้ายมองขวาเห็นเหมือนคนอื่น คือไม่มีอะไร

ในเชิง behavioral science มีเรื่องที่เกี่ยวข้องเรื่องหนึ่งคือ
“สิ่งที่เห็นไม่ใช่ตัวแทนของสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด”
อย่างสถิติ ที่เราเห็นจากสิ่งที่เรียกว่า Confirm Case ซึ่งนั่นคือกรณีที่ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว และมีข้อมูลประวัติเรียบร้อย
แล้วนั่นคือทั้งหมดหรือไม่ ไม่แน่นอนมีอีกกี่คนที่มีแต่ยังไม่ได้เทส
ที่สำคัญคือ Covid-19 ไม่แสดงอาการในทันที
อาจารย์เปรียบเทียบกับเรื่อง BrexIt ที่ก็ไม่มีใครคิดเหมือนกันว่าจะออก จากสถานการณ์ในช่วงอดีต

ดังนั้น ความเสี่ยงที่สำคัญมากในตอนนี้คือ
กรณีที่ถ้าเราต้องกลับบ้านไปเจอคนในกลุ่มเสี่ยง

“เพราะตัวเราเองอายุไม่เท่าไหร่ ก็ไม่เสี่ยงสักเท่าไหร่ แต่คนที่เสี่ยงคือคนที่เรารักทั้งนั้นเลย”

ไม่อยากให้อนาคต ต้องมองย้อนกลับไป แล้วบอกว่า “ตอนนั้น ถ้าทำได้ จะไม่…”

ดูความสำคัญของดีๆว่าอะไรสำคัญที่สุดในชีวิตเรา เงิน, งาน หรือสุขภาพ

อาจารย์ยกตัวอย่างกรณีของ วันแม่ที่อังกฤษ ซึ่งอยู่ในช่วงนี้พอดี ทางการไม่แนะนำให้ไปเยี่ยมนะ เพราะ 70% ของผู้เสียชีวิตเป็นผู้สุงอายุ ที่สำคัญคือ ผู้เสียชีวิต 100 กว่าคน อยู่ในบ้านพักคนชรา ซึ่งปกติแล้วมันเป็นที่ที่ปิดพอสมควร ยกเว้น… มีลูกหลานไปเยี่ยม…

เคสอื่นๆ ในเรื่องของการซื้อของใน Supermarket อาจารย์บอกว่า
ก่อน supermarket เปิดเป็นช่วงพิเศษที่ให้ แพทย์ หมอ บุคลากรที่เกี่ยวข้อง เข้ามาซื้อของ
ช่วง 8–9 โมง เป็นช่วงของผู้สูงอายุ
มีนโยบายสำคัญคือ ซื้อของได้แค่ อย่างละ 2 อัน ห้ามเกิน

สุดท้าย

อาจารย์กล่าวว่า
ตอนนี้ อังกฤษคือ เมืองไทยในอนาคต 10 วันข้างหน้า
ขณะที่อิตาลีคืออังกฤษในอีก 10 วันข้างหน้าเช่นเดียวกัน

อาจารย์ไม่อยากให้เกิดที่เมืองไทย
ไม่อยากให้แลกเปลี่ยนความรู้กัน ตอนที่มันสายไปแล้ว

ขอบคุณอาจารย์ ณัฐวุฒิ เผ่าทวี ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

--

--

Teerayut Hiruntaraporn
Teerayut Hiruntaraporn

No responses yet