สิ่งที่ได้เรียนรู้ที่แฝงมาใน Hometown Cha-Cha-Cha

Teerayut Hiruntaraporn
2 min readNov 1, 2021

--

พอดีว่าเมื่อสุดสัปดาห์ไปทริปกับเพื่อนๆที่เรียนด้วยกัน ตอนกลางคืนเนื่องจากไม่มีอะไรทำก็เลยนั่งดู Hometown Cha-cha-cha กันไป ซึ่งก็ไม่ได้ดูครบสักเท่าไหร่

แต่ระหว่างที่ดูก็เห็นว่าเรื่องราวในละคร มีอะไรที่เป็นความรู้ซึ่งแทรกระหว่างบทละครอยู่เรื่อยๆ ซึ่งจริงๆ เป็นสิ่งที่ละครเกาหลีทำได้ดีอยู่พอสมควร เลยตั้งใจว่าจะมาพูดคุยเรื่องนี้สักหน่อย

การเงินส่วนบุคคล

ในช่วงแรกๆ ที่ยุนฮเยจินประสบปัญหาจนต้องไปรับงานพิเศษ ในช่วงกลางคืนซึ่งต้องมีการอาบน้ำที่โรงอาบน้ำ ในช่วงที่กำลังจะจ่ายเงิน ก็มีแนวคิดที่แฝงเข้ามานั่นคือ

เงินที่ใช้ได้ = รายได้ — รายจ่าย

โดยรายจ่ายในที่ทางยุนฮเยจินคิด ก็เป็นรายจ่ายที่คิดล่วงหน้า แม้จะเป็นเพียง 1 วันข้างหน้า แต่ก็เป็นตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมและชัดเจนในวิธีคิด

ข้อสังเกตอีกเรื่องคือ มีการทำ visual ขึ้นมาแสดงด้วยว่า คิดอย่างไร

ซึ่งตรงนี้ ทำให้นึกถึงการแทรกซึมในซีรีย์เรื่องเก่าๆ อย่าง Autumn in my heart แต่ไม่ได้มีรายละเอียดเท่า คือ ช่วงที่อุนโซเขียนบัญชีรายรับรายจ่าย และนั่งพิจารณา ตอนที่ทำงานในโรงแรม

นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึงเรื่องต้นทุนจมเล็กๆ น้อยๆ ในช่วงที่ยุนฮเยจิน เปิดคลีนิคใหม่ๆ แล้วไม่ค่อยมีคนเข้า ตรงนี้จำรายละเอียดไม่ได้และ

การทำความเข้าใจคนที่หลายหลาย (Diversity)

ความแตกต่างในความหลากหลายทางความคิดของผู้คน เป็นสิ่งที่มีอยู่เป็นธรรมชาติในสังคม แต่ก่อนเราก็มักจะพยายามบังคับให้ฝ่ายนึงมาทางอีกฝ่าย ในโลกในปัจจุบันการเข้าใจและยอมรับความหลากหลายนั้น จะทำให้เราเข้าใจคนอื่นมากขึ้น นำมาสู่สังคมที่ดี นวัตกรรมที่ตอบโจทย์คนที่ต้องการ และอีกมากมาย

ในเรื่องเราจะเห็นความขัดแย้งตั้งแต่

  • Geographic Diversity — เช่น กรณีของฮเยจินกับชาวบ้าน
  • Generation Diversity — เช่น ปัญหาระหว่างพ่อลูกร้านคาเฟ่
  • Cultural Diversity — เช่น กรณีของคุณพ่อของฮเยจิน กับหัวหน้าฮง

แต่สุดท้าย ปัญหาเกี่ยวกับความหลากหลายจะมักจะจบลงด้วยการพูดคุย หรือ การพบเจอข้อมูลที่ทำให้มีการเปลี่ยนแนวคิด

โดยที่ลักษณะของการแก้ปัญหาแบบนี้ เราก็จะเห็นอยู่ใน 2 รูปแบบคือ การที่แก้ปัญหาโดยมีคนกลาง เช่นในกรณีของฮเยจินกับชาวบ้าน ที่มีหัวหน้าฮงมาจัดการเคลียร์ หรือปัญหาระหว่างพ่อกับลูกร้านคาเฟ่ที่ฮเยจินมาคุย ขณะอีกแนวทางก็จะเป็นที่คู่กรณีคุยกันเอง เช่น หัวหน้าฮงกับคุณพ่อของฮเยจิน

สุดท้ายแม้จะเป็นละคร อาจจะมีข้ออ้างว่าพล็อตมันคงแก้ง่ายกว่าปัญหาจริง แต่เราก็สามารถนำเอาวิธีการเดียวกัน มาแก้ปัญหาได้

ความรู้เรื่องทันตกรรม

แน่นอนว่า ด้วยอาชีพของตัวฮเยจินเองที่ทำงานเป็นหมอฟัน ทำให้มีการนำข้อมูลความรู้ที่ถูกต้องมาใส่แบบรวบรัด ไม่ให้ลึกเกินไป เช่น

  • การปวดฟันอาจจะไม่ได้มีเหตุมาจากฟันผุแค่อย่างเดียว
  • ทันตกรรมประดิษฐ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจจะส่งผลต่อผู้ป่วยได้

จริงๆ ยังมีอีกหลายเรื่องที่น่าสนใจ

แต่ประเด็นที่น่าสนใจคือ พอละครสามารถที่ให้ได้ใช้อาชีพปกติได้ ซึ่งทางกลุ่มผู้ประกอบอาชีพทันตแพทย์ที่เกาหลี ก็ไม่ได้มาโวยวายว่า การที่มาเล่นบทว่าหมอฟันรักษาคนไข้เกินความจำเป็น ทำให้ภาพลักษณ์ของหมอฟันไม่ดี

ตรงนี้อาจจะทำให้ เราได้เห็นพระเอกนางเอก ที่มีหลากหลายอาชีพ เมื่อเทียบกับบ้านเรา ที่จะเพลย์เซฟที่บทนักธุรกิจมากกว่า ทำให้เราได้เห็นมุมของอาชีพหรือทักษะในอาชีพต่างๆ มากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน

โฆษณาชวนเชื่อและ Influencer เล็กๆน้อยๆ

จุดที่เห็นชัดๆ คือช่วงที่ฮเยจินได้โทรศัพท์ที่ทำตกไป ก็จะมีเนื้อหาประมาณว่า

โทรศัพท์เกาหลีนี่ทนทานดีนะ

ในขณะเดียวกันหัวหน้าฮงก็พูดประโยคประมาณนี้อยู่หลายรอบว่า

เกาหลีคือมหาอำนาจทางด้าน IT

ส่วนตัวคิดว่า จริงๆแล้ว ถ้าตัดบทพูดนี้ออกไป ก็ไม่ได้ส่งผลต่อละครอยู่แล้ว แต่ต้องยอมรับว่า การพูดแทรกซึมไปแบบนี้ ก็อาจจะทำให้คนอื่นเริ่มเชื่อมากขึ้นโดยไม่รู้ตัวได้

ตรงนี้จะเป็นแนวทางคล้ายกับในอดีตที่ละครเกาหลีพยายามทำให้ นักแสดงนำฝ่ายชายสุภาพกว่าความเป็นจริง ทำให้ในระยะยาวภาพของผู้ชายเกาหลีที่รุนแรง (ในมุมเฉลี่ย) มีภาพ มีพฤติกรรมที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ภาพการทำ Home Training เช่น โยคะ นั่งสมาธิ Body Weight รวมถึงฉากวิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ก็ส่งผลให้คนดูอยากเลียนแบบและทำตามพระเอก นางเอก ได้ด้วยเช่นเดียวกัน

CR: Hometown Cha-Cha-Cha EP1
https://inkistyle.com/shin-min-ah-hometown-cha-cha-cha-episodes-5-6-kdrama-fashion/

อันนี้คือบทสรุปแบบคร่าวๆ ซึ่งบอกก่อนครับว่า ยังดูไม่จบ แล้วก็ไม่รู้จะได้ดูจบหรือเปล่า เพราะไม่ได้สมัคร Netflix ไว้ + งานวุ่นวาย ถ้ามีโอกาสดูอาจจะมีอะไรที่น่าสนใจ เพิ่มเติมมาอีกรอบครับ

--

--

Teerayut Hiruntaraporn
Teerayut Hiruntaraporn

No responses yet