5 วิธีการสำหรับการพัฒนาตัวเองให้เป็น Intentional Learner

Teerayut Hiruntaraporn
1 min readMay 11, 2021

--

ต่อจากเมื่อวานนะครับ เรื่องนี้สรุปมาจากบทความของ McKinsey เรื่อง The most fundamental skill: Intentional learning and the career advantage โดย คุณ Lisa Christensen, Jake Gittleson, และ Matt Smith

หลังจากที่เราได้ทำความรู้จักเกี่ยวกับหลักคิดที่สำคัญ 2 เรื่องไปแล้ว นั่นคือ Growth Mindset และ Curiosity ทีนี้ถ้าไม่มีการกระทำ การพัฒนาก็ไม่เกิดเช่นเดียวกัน ทางผู้เขียนจึงแนะนำวิธีการที่มีประสิทธิภาพช่วยให้พัฒนาในการเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วดังนี้ครับ

Set small, clear goals

อุปสรรคหนึ่งในการเรียนรู้ของเรา คือสิ่งที่เราจำเป็นต้องเรียนรู้นั้นกว้างหรือเยอะมาก ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราต้องการเขียน Web Application ขึ้นมาสักตัว ถ้าจะไล่ก็ต้องเริ่มกันที่หน้าเว็บซึ่งเป็นส่วนที่แสดงผล และระบบหลังบ้านซึ่งจะเป็นระบบประมวลผล

ในแต่ละส่วนก็ประกอบไปด้วยอุปกรณ์ต่างๆ มากมาย ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นคือ มันจะมีเรื่องที่ชวนสงสัยกระจาย ไม่เป็นแนวทางเดียวกัน นอกจากนี้ความกว้างระดับมหาสมุทรของมัน ก็ทำให้ดูไม่น่าที่จะทำให้สำเร็จได้

เราจึงจำเป็นต้องแบ่งเป้าหมายออกเป็นส่วนๆ เมื่อให้เราได้โฟกัสกับปัญหา หรือที่เราต้องเรียนรู้นั้นๆ สิ่งที่ดีคือ มันทำให้ความสงสัยของเราควบคุมให้อยู่ในเป้าเล็กๆ ซึ่งจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเป้าหมายเล็กๆ เป็นอะไรที่ทำให้เราสำเร็จได้ง่าย และจะส่งผลต่อ ความเชื่อมั่นในการบรรลุเป้าหมายต่อไปด้วย

จากตัวอย่างเดิม เราอาจจะเน้นไปทาง หน้าเว็บก่อน ในหน้าเว็บ ก็จะมีส่วนของ พื้นฐานเช่น CSS ใน CSS ก็จะมีสิ่งที่สำคัญตัวหนึ่งที่จะใช้ค่อนข้างบ่อย ที่ชื่อว่า Box Model เราค่อยๆ ทำความเข้าใจเรื่องนี้ให้เรียบร้อย เมื่อสำเร็จก็ค่อยไปลุยกับ Layout System หรืออื่นๆ เป็นต้น

โดยทางผู้แต่งได้แนะนำ Best Practice ไว้ 3 เรื่องได้แก่

  • ตั้งเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับเรา เป้าหมายอะไรที่เกี่ยวข้องกับเรา จะมีแรงขับดันช่วยให้บรรลุเป้าหมายมากกว่า เช่น ถ้าเป้าหมายนี้ทำให้เราเงินเดือนขึ้น ทำให้เรา เป็นที่น่าเชื่อถือต่อผู้คน ทำให้งานของเราเป็นที่ยอมรับ เป็นต้น
  • ตั้งเป้าหมายให้มีเฉพาะเจาะจงและมีรายละเอียด เป้าหมายที่มีรายละเอียด จะทำให้ทิศทางการเรียนรู้เด่นชัด เปรียบเทียบระหว่าง อยากเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี กับ อยากลองเขียนโค้ดทำ Regression เพื่อพยากรณ์แนวโน้มของหุ้น OR มันก็จะเห็นว่าแบบหลังดู มีทิศทางมากกว่า และดูน่าจะทำได้มากกว่า
  • พยายามมองว่านี่เป็นครั้งเดียวที่จะได้มีโอกาสทำมัน ในเรื่องนี้ทางผู้แต่งอยากให้มองว่าเราอาจจะมีโอกาสที่ได้เรียนรู้กับเรื่องนั้นๆ เพียงครั้งเดียว แล้วอาจจะไม่มีโอกาสอีกแล้วก็เป็นได้ จะส่งผลให้เราจะมีความพยายามไม่ให้มันเสียเปล่าไป

Remove distractions

ข้อนี้ค่อนข้างชัดเจนครับ คือการเอาสิ่งที่จะคอยก่อกวนออกไป ผู้ที่เป็น Intentional Learner แม้ว่าจะต้องเจอกับสิ่งรบกวนเหมือนคนอื่นๆ แต่เขาก็จะปกป้องเวลาที่จะใช้ในการเรียนรู้ไว้ โดยมีแนวทางที่สามารถทำได้อยู่ 3 แนวทาง

  • ประเมินตัวเอง และวางแผนการทำงาน
  • มีสติ มีสมาธิ เอาสิ่งรบกวนออกในขณะอยู่อยู่ในช่วงเวลาการเรียนรู้
  • ทดลองแนวทางต่างๆ เพื่อที่จะมีช่วงเวลาในการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ แต่สามารถปรับเปลี่ยนได้ คือเราสามารถปรับปรุงแนวทางการจัดการเวลาให้เหมาะสมกับเรา เช่นอาจจะทดลองใช้ Pomodoro หรือ ลองไปเขียนอะไรในร้านกาแฟ แล้วดูว่าท่าไหนเหมาะสมไม่เหมาะสมในเวลาไหน เราก็จะสามารถหาช่วงเวลา และการลดสิ่งรบกวนเพื่อการเรียนรู้ที่ดีได้

Actively seek actionable feedback

feedback ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญในการเรียนรู้ ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม feedback อาจจะบอกถึงจุดบอดที่ทำให้เราพัฒนาได้ไม่ดีเท่าที่ควร โดยมีแนวทางดังนี้

  • สอบถามผู้อื่น เช่น หลังประชุมเสร็จแล้ว ก็สามารถสอบถามผู้เข้าร่วมคนอื่นได้ว่าการพูดเป็นอย่างไรบ้าง
  • เน้นรายละเอียดและเฉพาะเจาะจง feedback ที่สามารถเอาไปใช้ต่อได้ มักจะมีรายละเอียดและตัวอย่าง ที่ทำให้เราสามารถระบุถึงปัญหาและแนวทางปรับปรุงที่ชัดเจนได้ เช่น feedback ว่าเขียนโค้ดอ่านไม่รู้เรื่อง ย่อมไม่สามารถพัฒนาอะไรต่อได้มากนัก แต่ถ้าบอกว่า การตั้งชื่อตัวแปรหรือชื่อฟังก์ชั่นไม่ได้ตรงกับสิ่งที่ฟังกชั่นนั้นทำ ก็จะช่วยให้เห็นแนวทางแก้ไขได้มากกว่า
  • พิจารณา feedback สิ่งที่สำคัญที่สุดในการรับ feedback คือ “เรารับทุก feedback แต่เราไม่จำเป็นที่จะต้องแก้ไขทุก feedback” เราต้องเป็นคนที่ควบคุมผลลัพธ์ว่า สุดท้ายอันไหนมีประโยชน์กับเราและควรที่จะไปพัฒนาแก้ไขต่อ
  • พบผู้เชี่ยวชาญ เราจะโตได้ยาก ถ้าไม่รู้ว่าสิ่งที่ดี สิ่งที่ถือว่าเป็นระดับสูงเป็นยังไง จึงแนะนำให้ไปหาดูผู้เชี่ยวชาญ หรือคนที่คว่ำหวอดในวงการ ผู้เชี่ยวชาญจะสามารถให้ข้อมูลรายละเอียดที่คนอื่นไม่เห็นกับเราได้

Practice deliberately in areas you want to grow in

คำว่า Deliberate Practice คือการซ้อมแก้ปัญหาที่อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับความสามารถของเรา การซ้อมแก้ปัญหาถ้าเป็นระดับต่ำเกินไป แม้จะทำเยอะก็ไม่ค่อยได้ประโยชน์ สูงเกินไป ก็จะท้อแท้ทำอะไรไม่ได้

ดังนั้นจึงควรที่จะอยู่กับระดับความท้าทายที่เหมาะสม ปริมาณการฝึกเหมาะสม และโฟกัสกับทักษะที่ต้องการได้

Practice regular reflection

การทำ Reflection จะเป็นกระบวนการที่ช่วยให้เราประเมินตัวเอง และประเมินว่าทักษะอะไรที่ขาดไป จากสิ่งที่เราได้ทดลองกันมา

ข้อดีของการทำ Reflection มีอยู่ 2 เรื่อง

  1. Reflection จะช่วยส่งเสริมความรู้สึกว่าเราทำได้ มีความมั่นใจมากขึ้น
  2. Reflection ช่วยในเรื่อง Growth Mindset คือ ลดความรู้สึกว่าเราเปลี่ยนแปลงไม่ได้

โดยทางผู้เขียนได้แนะนำให้ ล็อกเวลาในการทำ Reflection ไว้ได้เลย

ก็หวังว่าทักษะที่กล่าวมาจะได้สร้างประโยชน์ให้ไม่มากก็น้อยครับ

--

--

Teerayut Hiruntaraporn
Teerayut Hiruntaraporn

No responses yet