7 Trends ของ Hybrid Work ที่ควรรู้ในปี 2021

Teerayut Hiruntaraporn
2 min readMar 31, 2021

--

CR: https://www.freepik.com/free-vector/illustrated-people-remote-working_12242529.htm#page=1&query=remote%20work&position=2

เรื่องนี้มาจากรายงานของ Microsoft เรื่อง The Next Great Disruption is Hybrid Work — Are We Ready? เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2021

โดยที่คำว่า Hybrid Work นี้คือ จะหมายถึงรูปแบบการทำงานที่พนักงานบางส่วนจะเลือกที่จะกลับมาทำงานที่ที่ทำงาน ขณะที่บางส่วนก็จะทำงานที่บ้าน โดยที่แต่ละคนก็สามารถที่จะเปลี่ยนการทำงานตามความเหมาะสมของสถานการณ์

โดยที่มาของเรื่องนี้ก็คือ เหตุการณ์ของ Covid-19 ที่ทำให้คนต้องแยกย้ายทำงานกันนอกออฟฟิศเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค

ซึ่ง การทำงานแบบ Remote work นั้นก็ได้สร้างโอกาสมากมายในการทำงาน เวลากับครอบครัวที่มากขึ้น หรือทางเลือกว่าจะเดินทางหรือไม่ แต่ก็สร้างความท้าทายต่างๆ เช่น ทีมถูกแยกจากกันมากขึ้น หรือความเหนื่อยล้าจากการใช้ Tools เช่น Zoom

โดยรายงานนี้ ศึกษาข้อมูลจาก 30,000 คนใน 31 ประเทศ นอกจากนี้ยังมีการใช้ข้อมูลเชิงพฤติกรรมจากผลิตภัณฑ์ของ Microsoft เช่น Office365 หรือ LinkedIn อีกทั้งยังมีมุมมองจาก Expert มาเสริมด้วย

เดี๋ยวจะสรุปคร่าวๆ 7 เรื่องครับ ใครสนใจรายละเอียดก็สามารถไป download มาอ่านต่อได้ครับ

  1. Flexible work is here to stay

พนักงานต้องการใช้งานข้อดีของการทำงานทั้งในแบบ office และ แบบ remote โดยพนักงานจะต้องการตัดสินใจว่า จะทำงานที่ไหน เมื่อไหร่ และอย่างไร

โดย 73% ของผลสำรวจ ต้องการให้บริษัทยังคงสามารถทำงาน remote ได้แม้จะผ่าน Covid ไปแล้ว แต่ 67% ก็ยังมีความต้องการที่จะพูดคุยกับทีม

ดังนั้น 66% ของบริษัทเริ่มมีการพิจารณาออกแบบพื้นที่ทำงานเพื่อสนับสนุน Hybrid Work มากขึ้น

ซึ่ง ณ จุดนี้ ผู้บริหารจะต้องตัดสินใจเพื่อให้ส่งผลต่อองค์กร และการดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีความสามารถ

2. Leaders are out of touch with employees and need a wake-up call

ในผลสำรวจแสดงให้เห็นภาพรวมเรื่องหนี่งคือ กลุ่มของผู้นำองค์กรจะอยู่ดีกว่าพนักงาน ในช่วงปีที่ผ่านมา โดย 61% ของกลุ่มผู้นำองค์กรบอกว่าสภาพความเป็นอยู่อะไรยังดี ซึ่งมากกว่ากลุ่มอื่นถึง 23%

ขณะที่กลุ่ม Gen Z , ผู้หญิง, พนักงานหน้าร้าน หรือพนักงานใหม่ จะมีปัญหาในการทำงาน โดยประเด็นที่สำคัญของเขาเหล่านั้นคือ ความรู้สึกที่เหมือนขาดการติดต่อกับองค์กร 70% บอกว่าบริษัทร้องขอให้เขาทำงานมาเกินไปสำหรับสถานการณ์แบบนี้

โดยสรุปคือ พนักงานต้องการให้ผู้นำมีความเข้าใจพนักงานมากขึ้น

3. High productivity is masking an exhausted workforce

Productivity ของพนักงานสูงขึ้นแต่ก็แลกกับสุขภาพของพนักงานเอง 54% รู้สึกว่าทำงานมากเกินไป 39% รู้สึกเหนื่อยล้า

และข้อมูลก็สอดคล้องกับการใช้ซอฟท์แวร์ของ Microsoft 365 กล่าวคือ มีการใช้งาน Meetings กับ chats ที่มากขึ้น เช่น

  • เวลาที่ใช้ใน MS Teams เพิ่มขึ้น 2.5 เท่า
  • เวลาเฉลี่ยในการประชุมเพิ่มจาก 10 นาทีเป็น 35–45 นาที
  • Chat เพิ่มขึ้น 45%

โดยสาเหตุหนึ่งคือ การประชุมผ่าน remote ที่ไม่ได้มีรูปแบบที่ชัดเจนและ ไม่มีการวางแผนล่วงหน้า

4. Gen Z is at risk and will need to be re-energized

กลุ่ม Gen Z คือกลุ่มคนที่มีอายุ 18 — 25 ปี ในช่วงนี้ ​โดยคนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะโสด และอยู่ในช่วงเวลาเริ่มต้นในการทำงาน

สิ่งที่จะเป็นปัญหาของคนกลุ่มนี้คือ การแบ่งแยกมาทำงานเดี่ยวๆ ,​ การขาดแรงกระตุ้นในการทำงาน, การไม่มีเงินในการจัดการที่ทำงานที่บ้าน และ หลายคนมีปัญหาการจัดการชีวิตและการทำงาน

เรื่องหนึ่งที่ขาดหายไปในช่วงที่ผ่านมาสำหรับ Gen Z ที่เข้าสู่ตลาดแรงงานในช่วงนี้คือหลายบริษัทไม่สามารถทำ Onboarding , Networking หรือ Training ให้กับพนักงานได้ ยิ่งทำให้พนักงานโดดเดี่ยวมากขึ้น

5. Shrinking networks are endangering innovation

จากข้อมูลการวิเคราะห์จากโปรแกรม MS Outlook และ MS Team จะพบว่ากลุ่มเครือข่ายของพนักงาน จะมีขนาดเล็กลง

โดยกลุ่ม Network เดียวกันจะมีการคุยมากขึ้น ขณะที่การคุยกันข้าม Network จะน้อยลงด้วย

หรือจะกล่าวได้ว่า ทีมในบริษัทจะแบ่งแยกกันมากขึ้น

และเมื่อ connection ของคนน้อยลง การสร้างนวัตกรรมก็ทำได้ยากขึ้น เพราะขาดไอเดียใหม่ๆ เหลือแต่กลุ่มเดิมๆ ที่จะคิดเรื่องเดิมๆ

ณ จุดนี้ผู้นำจำเป็นที่จะต้องช่วยในเรื่องของ social, การร่วมมือกันระหว่างทีม, หรือการแชร์ไอเดียระหว่างทีม

6. Authenticity will spur productivity and wellbeing

หลังจากที่เราทำงาน remote กันมานาน เราก็จะเริ่มคุ้นเคยกับชีวิตส่วนตัวของพนักงาน พร้อมๆ กับการทำงาน เพราะพนักงานก็จะใช้เวลาในการดูแลลูก จัดการสิ่งต่างๆในบ้าน พร้อมๆไปกับการทำงานด้วย

ชีวิตงานกับเรื่องส่วนตัวจะค่อยๆ หลอมรวมกันไป

ซึ่งการที่ไปทำ remote work นี้ก็ทำให้พนักงานหลายคน มีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น เพื่อนร่วมงานจะสนิทกันมากกว่าแต่ก่อน อาจจะมีเด็กหรือสัตว์เลี้ยงผ่านหน้ากล้อง ซึ่งตรงนี้ทำให้ความสัมพันธ์ดีขึ้นได้

7. Talent is everywhere in a hybrid work

เมื่อพนักงานจะไม่จำเป็นที่จะต้องมานั่งอยู่ที่เก้าอี้ ก็จะมีโอกาสมากมายที่จะไปทำงานในที่ต่างๆ แม้กระทั่งบริษัทต่างประเทศเอง

ขณะเดียวกันองค์กรก็สามารถจัดหาพนักงานได้จากทุกที่ในโลก

พนักงานไม่จำเป็นที่จะต้องออกจากบ้าน หรือออกจากเมืองที่ตัวเองอยู่ เพื่อที่จะไปหาความก้าวหน้าในอาชีพการงานต่อไป

ก็ใครสนใจที่จะอ่านข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ https://www.microsoft.com/en-us/worklab/work-trend-index/hybrid-work ครับ

--

--

Teerayut Hiruntaraporn
Teerayut Hiruntaraporn

No responses yet