Incomplete Leader = Human
เรื่องนี้มาจาก บทความเรื่อง In Praise of the Incomplete Leader โดย Deborah Ancona, Thomas W. Malone, Wanda J. Orlikowski, and Peter M. Senge ตีพิมพ์ในปี 2007
โดยมองว่าโลกในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย เช่นองค์กรที่มีลำดับชั้นที่น้อยลง ความเป็น globalization ที่ข้อมูลมาจากทุกที่ ทำความการเป็น Leader หรือ Top Executives ที่มีความสมบูรณ์แบบนั้นเป็นไปได้ยาก
ทั้งนี้หนึ่งในความจำเป็นในอดีตที่ผู้นำในอดีตจะต้องเก่งทุกอย่าง ก็อาจจะเป็นเพราะรูปแบบที่เรียกว่า Command & Control อีกทั้งข้อมูลต่างๆ ศาสตร์ต่างๆ ก็ไม่ได้มีมากมายเท่ากับปัจจุบัน และต้องมีการส่งข้อมูลมาตัดสินใจแบบ รวมศูนย์ จึงทำให้ Leader ต้องเก่งมากๆ
แต่ในปัจจุบันนั้นตรงกันข้าม องค์กรหลายแห่งเปลี่ยนลักษณะไปเป็น Cultivate & Coordinate การทำงานของหลายๆคน ทำให้ผู้คนมีส่วนร่วมมากขึ้น ผู้นำก็มีทางเลือกที่จะนำเอาความสามารถของคนอื่นมาช่วยทดแทนจุดบกพร่องของตัวเองในการบรรลุเป้าหมายได้เช่นเดียวกัน
และถ้ายิ่งถ้าผู้นำหลุดความความเป็น Complete Leader เร็วเท่าไหร่ องค์กรก็จะดีขึ้นเท่านั้น
ถ้า Leader มองตัวเองว่าไม่ได้สมบูรณ์แบบ หรือมองเห็นข้อดีข้อเสียของตัวเองได้ เขาก็จะสามารถเติมเต็มทักษะที่ไม่มีนั้น จากความช่วยเหลือของเพื่อนร่วมงานที่ความสามารถสามารถด้านนี้
ทีนี้เมื่อทักษะถ้ามองไปย่อยๆ มันก็มีมากมาย ทางผู้เขียนจึงได้ใช้แนวทางง่ายๆที่เรียกว่า Model of Distributed Leadership เพื่อที่จะมองว่า Leader มีทักษะใดใน 4 อย่างนี้บ้าง เมื่อรู้ว่าเรามีอะไร อ่อนอะไร ก็ไปหาคนที่มีทักษะที่ขาดมาร่วมทีมนั่นเอง
โดยทักษะ ทั้ง 4 ของ Distributed Leadership ได้แก่
- Sensemaking — ความสามารถในการเห็นบริบทในเรื่องที่บริหารจัดการอยู่ เข้าใจความเป็นไปของธุรกิจ เช่น เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องไปถึงไหนแล้ว วัฒนธรรมองค์กรเป็นอย่างไร ตลาดเป็นอย่างไร ทรัพยากรบุคคลเป็นอย่างไร
- Relating — เป็นความสามาถที่จะสร้างความสัมพันธ์ทั้งภายในและระหว่างองค์กร
- Visioning — สามารถสร้างเป้าหมายวิสัยทัศน์ที่ดึงดูดใจ ในการเอาชนะได้
- Inventing — เป็นการเปลี่ยนแปลงไอเดียที่ฟุ้งๆ ให้เป็นแนวทางปฏิบัติที่สามารถทำได้จริง
ซึ่งทั้ง 4 สิ่งนั้นจะมีความสัมพันธ์ระหว่างกัน ตัวอย่างของผู้นำที่เรารู้จักเช่น
- Andy Grove — CEO ของ Intel จะมี Sensemaking ที่ดี
- Steve Job — เป็นคนที่มี Vision ดี
ซึ่งโดยทั่วไป เขาจะบอกว่าส่วนใหญ่ก็จะมีแบบดีๆ ไม่เกิน 1–2 ทักษะ
ดังนั้น ถ้าเราทราบแล้วว่าเรามีดีอะไร ส่วนที่เป็นจุดด้อย ก็แนะนำให้หาคนที่มีทักษะที่เราไม่มีมาเสริมเราได้
ถ้าเราไม่ทำ สุดท้ายเราก็จะเจอแต่คนที่มีแนวคิดไปทางเดียวกัน แล้วถึงที่สุดมันจะตัน
สุดท้ายเขากล่าวสรุปไว้ว่า แม้ว่าจะเป็น Leader ที่เก่งที่สุดก็ยังต้องใช้ความสามารถและความเป็นผู้นำของคนอื่นเช่นเดียวกัน
และการเป็น Incomplete leader ก็เป็นเรื่องปกติ เพราะนั่นก็คือมนุษย์นั่นเอง