Jeff Bezos บริหาร Amazon ยังไง
เรื่องนี้ สรุปมาจากบทความชื่อ How Jeff Bezos has run Amazon, From Meetings to Managing โดยคุณ Lauren Weber ของ Wall Street Journal วันที่ 2/2/2021
Jeff Bezos ถือว่าเป็นผู้บริหารคนหนึ่งที่มีแนวคิด และหลักการในการบริหารงานอีกทั้งความเป็นผู้นำที่ไม่เหมือนใคร เรามักจะได้อ่านหรือฟัง แนวคิดของ Jeff ผ่านจดหมายถึง Shareholder หรือ งาน Interview ต่างๆ ซึ่งแนวคิดคิดของเขาก็ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ใช้ในการบริหาร Amazon ให้เติบโตจนถึงทุกวันนี้
โดยทางคุณ Lauren ได้ยกมาอยู่ 6 หัวข้อดังนี้
Make Small Number of High Quality Decision
เจฟเคยกล่าวในงาน Economic Club of Washington ในปี 2018 ว่า “วันนึงทำการตัดสินใจที่ดีๆ 3 เรื่องก็เพียงพอแล้ว” ถ้าลงในรายละเอียดเพิ่มเติม คือ เจฟจะตัดสินใจเฉพาะเรื่องที่สำคัญจริงๆ กับบริษัท เรื่องอื่นๆ ให้พนักงานตัดสินใจกันเอง โดยมุมนึงเขาถือว่าเขาก็จ้างคนที่มีความรู้ความสามารถมาอยู่แล้ว ก็แบ่งๆ กันไป
โดยในการตัดสินใจของเขานั้น เขาต้องพร้อมสำหรับการตัดสินใจนั้น ดังนั้นเขาจะเตรียมตัว ด้วยการนอนเช้า ตื่นเช้า และจะให้เวลาในช่วงเช้า สำหรับงานที่ต้องใช้ความคิดสูง (High IQ work)
Obsess over Customer
Amazon เป็นบริษัทที่มีค่านิยมของการคิดเพื่อลูกค้า โดยมีคำกล่าวที่ว่า “Giving Customers what they want”
ในช่วงเริ่มบริษัท ทุกครั้งที่มีการประชุมทีมบริหาร จะมีเก้าอี้ว่างๆ ตัวหนึ่งซึ่งทำหน้าที่แทนลูกค้าเสมอ และทุกครั้งที่ตัดสินใจก็จะมองมาที่เก้าอี้ตัวนั้น แล้วคิดพิจารณาว่า การตัดสินใจนี้ส่งผลต่อลูกค้ายังไงบ้าง
อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นตัวอย่างของการฟังเสียงลูกค้าของเจฟ คือช่วงหลังจากที่ Amazon ได้ทำการขายหนังสือและเพลง Online เรียบร้อยแล้ว ทางเจฟก็ต้องการไปไอเดียว่าจะขายอะไรออนไลน์ต่อดี จึงทำการเมลไปหาลูกค้าแบบสุ่ม จำนวน 1000 คน ซึ่งคำตอบที่ได้ก็อาจจะมีความหลากหลายพอสมควร สุดท้ายเจฟเลยสรุปว่า ขายมันทุกอย่างเลยหล่ะกัน จึงทำให้เป็นที่มาของ Everything Store ในทุกวันนี้
Innovate, Then Innovate some more
Amazon เป็นบริษัทที่มี Patent, Trademark และงานในการวิจัยและพัฒนา สูงเป็นอันดับต้นๆ มากกว่าแอปเปิ้ลเสียอีก และ Amazon ก็เป็นบริษัทที่ยกเลิก Patent เยอะเช่นเดียวกัน นั่นคือการบอกว่า อะไรใหม่เราทำ อะไรที่เก่าแล้วเราก็ทิ้งทันที
เจฟ เคยกล่าวว่า “If you get it right, a few year after a surprising invention, the new thing has come normal, People yawn. And that yawn is the greatest compliment an inventor can receive”
Embrace Failure
เจฟกล่าวว่า “Failure and innovation are inseparable twins” ผู้คนชอบ invention แต่กลับไม่ชอบ failure แต่ทั้งสองอย่างนี้เป็นสิ่งที่ขาดกันไม่ได้
“Most important Invention come from trial and error with lots of failure”
นอกจากนี้เจฟยังกล่าวว่า “ถ้าการทดลองใดรู้ว่ามันสำเร็จอยู่แล้ว นั่นย่อมไม่ใช่การทดลอง”
อย่างไรก็ตามเราจะต้องแยก Good กับ Bad Failure ออกจากกัน
โดยในตัวอย่าง Good Failure คือการทำการทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ แล้วมันไม่work แล้วเราก็ได้เรียนรู้ข้อมูลมากมายจากมัน เพื่อที่จะไปทดลองสิ่งใหม่ต่อ
ขณะที่ถ้าทำ Fulfillment center แล้วมันเจ๊ง ขาดทุน ระบบมีปัญหา อันนี้เป็น Bad Execution ไม่ดีแน่นอน
Most Meeting are Pointless
เจฟเชื่อว่า การประชุมสามารถมีประสิทธิภาพได้
โดยวิธีที่เขาทำ จะไม่เหมือนวิธีโดยทั่วไป โดยเขาจะให้คนที่จะนำเสนอ เขียนเอกสารลงกระดาษ A4 จำนวนไม่เกิน 6 หน้า
พอเริ่มประชุม ทุกคนจะนั่งเงียบๆ อ่านเอกสารนี้พร้อมๆ กัน เป็นเวลา ประมาณ 15–30 นาที หลังจากนั้นจึงจะเริ่มทำการอภิปรายกัน ซึ่งวิธีนี้จะทำให้เกิดการอภิปรายที่ดีได้
ขณะที่คนที่ทำเอกสารมา ก็จะใช้เวลาในการทำ ทำให้พัฒนาไอเดีย, การตัดสินใจต่างๆ ด้วย
Ignore Stock Market
เจฟจะเน้นว่า อย่าไปดู Stock Price รายวัน เพราะมันไม่มีประโยชน์และเสียพลังงานเยอะ
เขากล่าวว่า การที่ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 30% ไม่ได้ทำให้เราฉลาดขึ้น 30% ขณะเดียวกันราคาหุ้นที่ลดลง 30% ก็ไม่ได้ทำให้เราโง่ลง 30% เช่นเดียวกัน