Matrix ในการจัดลำดับความสำคัญของวิธีการแก้ปัญหา
เรื่องนี้เป็นความบังเอิญที่หนังสือสองเล่มมีเนื้อหาที่คล้ายๆ กัน คือ Problem Solving 101 และ High Speed Problem Solving เลยคิดว่าน่าเอามาแชร์กันครับ
แบบที่แนะนำว่าไม่ควรใช้
ก่อนที่จะแนะนำวิธีการจัดลำดับความสำคัญของปัญหา หนังสือ High Speed Problem Solving จะเริ่มด้วยวิธีที่ไม่ควรใช้ แต่หลายคนก็ใช้ในการจัดลำดับวิธีการแก้ปัญหากัน นั่นคือ การจัดลำดับตามความเร่งด่วนและสำคัญ หรือ Eisenhower Matrix นั่นเอง
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ก่อนที่จะเล่าถึงเหตุผล ต้องเข้าใจก่อนว่า วิธีการแก้ปัญหาส่วนใหญ่วัดไม่ได้เป็นตัวเลข หรือเปรียบเทียบกันตรงๆได้ยากว่า อันไหนควรทำก่อนหรือหลัง ดังนั้นเราจึงเอาปัจจัยต่างๆ ซึ่งบางครั้งก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะ Subjective ไม่ในทางส่วนตัว ก็ในทางกลุ่ม
ทางผู้เขียนอธิบายไว้ 2 เหตุผลดังนี้:
- ด้วยอะไรก็แล้วแต่ บางครั้งจะตกหลุมพรางว่า “ความเร่งด่วนคือความจำเป็น” อาจจะเกิดจากความเร่งรีบ หัวหน้าสั่งมา
- การตัดสินด้วยความสำคัญ นั่นเป็นการตัดสินในมุมมองของหลักการ แต่อาจจะแก้ปัญหาในทางปฏิบัติจริงๆไม่ได้
ส่วนตัวคิดว่า ส่วนที่ทำให้ไม่แนะนำท่านี้คือ ความไม่ชัดเจนว่าจะสามารถได้ปัญหาได้มีประสิทธิภาพแค่ไหนมากกว่า ภายในเวลาที่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม Eisenhower Matrix ก็ถือเป็นท่าที่ดีในการดูแลจัดการเวลาท่าหนึ่ง
แนวทางการจัดปัญหาโดยใช้ประสิทธิผลและความเป็นไปได้
ในหนังสือ Hight Speed Problem Solving จะใช้แนวทางประสิทธิผล — ความเป็นไปได้ในเชิงปฏิบัติมา และด้วยเวลาที่จำกัด เราอาจจะแก้ปัญหาได้ไม่หมด จึงควรที่จะเลือกวิธีที่เป็นไปได้ในทางปฏิบัติสูง และได้ประสิทธิผลสูง
ซึ่งในมุมผู้เขียนจะบอกว่า
แม้ว่าวิธีแก้ปัญหานั้นจะหลักการดีเพียงใด แต่ถ้าเอาไปปฏิบัติไม่ได้ก็ไม่มีประโยชน์
แนวทางการจัดปัญหาโดยใช้ผลกระทบและความยากง่าย
ในหนังสือ Problem Solving 101 ก็นำเสนอแนวทางที่ดูคล้ายๆกัน เพียงแต่มีมิติที่มากกว่าหน่อย โดยจะใช้คำว่า ผลกระทบกับความยากง่ายแทน
อย่างไรก็ตามถ้าดูจากบริบทต่างๆแล้ว ก็รู้สึกว่าคำก็จะคล้ายๆกับทางหนังสือ High Speed Problem Solving
อย่างไรก็ตาม เราก็สามารถพลิกแพลงอะไรได้เล็กน้อย เพื่อเพิ่มแนวทางที่สามารถแก้ปัญหาได้ผลกระทบสูงและง่ายได้
เช่น ถ้าสิ่งที่ไม่คุ้มที่จะทำเป็นงานที่จะต้องทำกราฟฟิคดีไซน์ ซึ่งเราฝีมือห่วยมาก แต่อย่าลืมว่า เราก็สามารถ ขอแรงคนอื่นที่มีความสามารถสูงมาช่วยเราได้ โดยอาจจะจ้างมาช่วย ดังนั้น เราจะสามารถเพิ่ม งานที่สามารถทำได้อีกนอกจากที่เป็นอยู่
ส่งท้าย
ก็หมดสรุปเรื่อง Matrix ที่ใช้ในการจัดลำดับวิธีการแก้ปัญหาครับ โดยมุมมองที่ได้เรียนรู้คือ
- จะแนวทางแก้ปัญหาไหนก็แล้วแต่สำคัญที่สุดคือ ต้องเอาไปใช้ได้
- Leverage สำคัญมากที่จะช่วงให้เราผ่อนแรงในการแก้ปัญหา
- ถ้ามิติของเราอย่างเดียวยังดูยากไป ดึงมือคนอื่นมาช่วยเพิ่มมิติในการแก้ปัญหาได้
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ครับ
ที่มา
- วิธีแก้ปัญหาที่รวดเร็วที่สุดในโลก High-speed Problem Solving, Kaoru Tarashita
- ชั้นเรียนวิชาแก้ปัญหาที่ง่ายที่สุดในโลก Problem Solving 101, Ken Watanabe