Start-Up Review: Won In-Jae ณ บางมิติที่คนยังดูดีกว่า AI
คำเตือน Spoil แน่นอน ใครกลัว Spoil ข้ามครับ
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า จริงๆ ชอบคิม ซอนโฮ แสดงบนของ ฮัน จี พยองมาก ที่แสดงแล้วได้ฟีล โดยเฉพาะกับอาม่าในตำนานอย่าง Kim Hae-sook ที่ซึ้งกว่าคู่นักแสดงนำมาก
แต่บทของวอน อินแจส่วนตัวคิดว่า เป็นบทที่โคตรดี และอยู่ๆ ระหว่างวิ่งก็รู้สึกว่า นี่อาจจะเป็นอีกมุมที่ซีรีย์เรื่องนี้อาจจะสื่อออกมาก็ได้
ความเหมือนของคนกับ AI
สิ่งหนึ่งในเรื่องนี้ได้บอกคือ AI สามารถเรียนรู้ได้ โดยที่เราตั้งคำถามแล้วให้ Feedback กลับไปที่ตัวมัน สักพักมันก็สามารถ พัฒนาตัวเองได้
ซึ่งคนก็ไม่ได้ต่างกัน ก็เรียนรู้ แล้วก็สามารถทำให้เก่งขึ้นได้เช่นเดียวกัน
การพัฒนาการของตัวละครที่มากขึ้นจากการเรียนรู้
ในเนื้อเรื่องจะมีจุดที่น่าสนใจอยู่ เป็น 2 ช่วง คือช่วงก่อน EP 13 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นจนกระทั่งเกิดเหตุให้บริษัทต้องแยกตัวกันไป กับช่วงหลัง EP 13 ซึ่งทุกคน up level เรียบร้อยแล้ว
โดยสิ่งที่เราเห็นคือ ทุกคนเคยทำความผิดพลาด และเรียนรู้กับมัน ไม่ได้ต่างจาก AI ดังนั้นเราจะเห็นการยอมรับในผลที่เกิดขึ้น ความผิดพลาดของกันและกัน และการเตรียมพร้อมกับลูกเล่นสกปรก ที่ดีขึ้นมาก
ซึ่งตัวของวอน อินแจ ก็เช่นเดียวกัน ซึ่งตอนแรก ก็เรียกว่าโดนหักหลังจาก พ่อบุญธรรมนั่นแหละ จึงทำให้ตัวเธอมีความระมัดระวัง เกรี้ยวกราดพอสมควร
แต่สิ่งที่ต้องยอมรับอย่างหนึ่งคือ ตลอดซีรีย์ ตัวเธอเองก็ถือว่า เป็นคนที่เล่นตามเกมส์ พอสมควร ถ้าไม่นับช่วงแรกที่ไปแอบอ้างว่าเป็นเด็กผู้หญิงบนชิงช้า
แต่เธอก็มักจะใช้สกิลเกรียนจัดการกับคนเกรียนมากกว่า
แล้วก็อาจจะมี Skill ไมค์ ที่ตรงไปตรงมาจนคนเกลียดขี้หน้าได้ เช่น ตอนที่คุยกับพ่อกับโดซาน
พัฒนาการด้านจิตใจของอินแจ
สิ่งที่ดีของของพี่น้องทั้งอินแจและดัลมี คือเป็นคนที่รับฟีตแบคได้ดีมาก แม้ว่าจะแรงแค่ไหนก็ตาม และสามารถนำกลับมาพัฒนาตัวเองได้ (ถ้าไม่เจอเกรียน ซึ่งสองพี่น้องก็เป็นสายบวกอยู่แล้ว เพียงแต่คนพี่จะมีชั้นเชิงกว่า)
อย่างไรก็ตาม Feedback ของอินแจเจอก็มันจะเป็น ความเห็นซะเยอะ เป็นอะไรที่บางทีก็ไม่ได้มีคำตอบที่ถูกต้อง หรือเป็นการเมืองพอสมควร ซึ่งมันกลับทำให้ตัวเธอเอง ได้ตกผลึกอะไรมากขึ้น
เช่นในตอนที่ตอบโต้กับพ่อของนัมโดซาน กลายเป็นว่าได้ Why ของตัวเองซะงั้น จนประธานยุน บอกว่า ในที่สุดก็เข้าใจแล้วสินะ
และในขณะที่อยู่ข้างห้องกัน ความสัมพันธ์พี่น้องแม้จะมีการแขวะกันเรื่อยๆ แต่ก็เริ่มมีสัญญาณที่ดีระหว่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ ในห้องน้ำ หรือใหญ่อย่างเรื่องสัญญา
และหลังจาก EP13 ซึ่งดัลมีมาทำงานกับอินแจไปแล้ว อินแจก็เป็นคนที่ถ่ายทอดความเขี้ยว และสนับสนุนงานของดัลมีอยู่เบื้องหลัง
ผู้นำ
ระดับความเป็นผู้นำของตัววอน อินแจ ก็ไม่น่าเป็นที่น่าสงสัยสักเท่าไหร่ เพราะนอกจากพี่ชายกับพ่อบุญธรรมผู้หักหลังแล้ว เธอก็คุมคนอยู่ตั้งแต่ต้นเรื่องยันท้ายเรื่อง
แต่จุดที่น่าสนใจคือ การที่ลูกน้องที่เคยทำงานด้วย ลาออกมาเริ่มใหม่ด้วยการเป็น Start-up มันต้องอาศัยความเชื่อใจที่สูงมาก มีความสามารถในการโน้มน้าว หรือบารมีที่เพียงพอที่จะทำให้คนกล้า ตามออกมาจากที่ๆ สบายอยู่แล้วได้
ซึ่งก็มีการแสดงออกถึงความสามารถในการตัดสินใจบ่อยๆ และการให้ใจลูกน้องด้วยการให้โอกาสต่างๆ อยู่หลายๆครั้งตลอดเรื่อง เช่น รับฟังคู่แฝดในช่วงแรก การให้โอกาสดัลมี และให้ไปตั้งบริษัทย่อยอีกด้วย
และเธอก็เป็นคนที่สอนและพัฒนาคนอื่น มีคำเตือนอะไรให้บ่อยๆ
ถ้ามีการแข่งขันจะชนะหรือแพ้ อาจจะดีใจบ้างเสียใจบ้าง แต่ก็ให้ความเคารพคู่แข่งพอสมควร (บางทีเจ้าตัวก็อาจจะไม่ได้อยากแข่งกับน้องสาวตั้งแต่แรก แต่เพราะน้องสาวมาท้ามากกว่า…)
เอาจริงๆ คือถ้าไม่ใช่การตัดสินใจไปอยู่กับพ่อบุญธรรม กับการล้างแค้นพ่อบุญธรรม ก็แทบจะไม่มีภาพลักษณ์ที่แย่ๆเลย
คนใจแข็งที่อ่อนโยน
การไปอยู่อเมริกาของวอนอินแจแม้จะทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น แต่ความสัมพันธ์ของครอบครัวแบบเดิมก็หายไป เราจึงเห็นปมที่เธอน้อยใจคุณแม่เพียงเพราะ คำพูดที่มีความห่วงใยจากคุณแม่ไปหาดัลมี ซึ่งเป็นสิ่งที่อยากได้ตลอด
และแน่นอน ช็อตหนึ่งที่น่าประทับใจมากในซีรีย์ คือ การที่ตัวของอินแจไปเก็บหมวกให้อาม่า นั่นแหละ
แน่นอนว่าช็อตนี้จะเริ่มนำมาสู่ตอนจบ ที่ทำให้ตัวของอินแจเอง กลับไปใช้นามสกุลเดิม
แม้ว่าช่วงหลังๆ จะปรากฎตัวน้อยลง แต่ทุกครั้งที่เห็นจะเริ่มมีมุมมองของ human ที่มากขึ้น เช่น ความมั่นใจที่น้องของเธอจะจัดการปัญหานักข่าวได้ การที่มองไปถึงความรู้สึกของคุณฮัน หรือการตอนคุยกับยงซาน
และที่สำคัญ เราได้เห็นรอยยิ้มของเธอมากขึ้นในช่วงหลังๆ
รวมถึงมุกแพนด้า ที่ต้องยอมรับว่าผู้กำกับกล้ามาก เพราะในมุมนึงเหมือนการทำลายภาพลักษณ์ที่อุตส่าห์สร้างมาตั้งแต่ต้นเรื่อง
บทสรุป: Machine are cool , Human are Warm
ในซีรีย์เรื่องนี้ ตัวละครหลักและ AI มีพัฒนาการล้อกันอยู่เสมอ
แต่วอน อินแจ กลับเป็นคนที่มีลักษณะที่ต่างออกไป โดยตั้งแต่เริ่มเธอก็เป็นคนที่น่าจะโหดที่สุดในซีรีย์อยู่แล้ว
จากคนที่ก้าวขึ้นมาด้วยเงินตรา อยากพิสูจน์ตัวเองว่าฉันไม่ได้ขึ้นมาเพราะเส้นสาย สู่ความไม่เชื่อใจเพราะโดนหักหลัง ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านชัยชนะและความพ่ายแพ้มาหลายครั้ง และผู้คนอีกมากมาย โดยเฉพาะตัวน้องสาว ทำให้ตัวของวอน อินแจ มีพัฒนาการในมุมที่แตกต่างจากตัวละครตัวอื่น โดยเฉพาะมุมมองของความเป็นมนุษย์
สุดท้ายแม้จะเป็นตัวละครที่มีคาแรคเตอร์ที่ดูแข็งกร้าว แต่ก็ให้ความรู้สึกที่อบอุ่น แล้วสร้างฉากที่ประทับใจในช่วงท้าย
ทำให้นึกถึงสิ่งที่ P Kolter เขียนไว้ในหนังสือ MKT 5.0
Machine are cool , but Human are Warm
ในเรื่องความรู้เราคงพัฒนาไปได้เรื่อยๆ เช่นเดียวกับ AI
แต่หัวใจคนกับความรู้สึก ยังคงเป็นโจทย์ที่ AI ยังคงต้องทำการบ้านต่อไป