Yamanote กับ の ที่หายไป
คนที่ชอบไปญี่ปุ่นโดยเฉพาะโตเกียว น่าจะรู้จักรถไฟสายหากินประจำโตเกียวที่ชื่อว่า Yamanote Line (山手戦)ซึ่งเป็นสายรถไฟที่วิ่งเป็นวงกลมภายในโตเกียว ผ่านย่านสำคัญๆ แล้วเป็นพาหนะสำคัญที่สร้างการเคลื่อนไหวและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของคนญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก
ซึ่งถ้าเรามองในตัวชื่อและการพูดถึงของมันก็ทุกคนก็จะเรียกมันว่า Yamanote เป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าเราลองพิจารณาในการเขียนตัวอักษรเราจะพบกับความน่าสนใจเรื่องหนึ่งคือ ตัวคันจิที่ประกอบคำว่า Yamanote นั้นจะประกอบด้วย
- 山 ー อ่านว่า ยามะ แปลว่าภูเขา
- 手 ー อ่านว่า เทะ แปลว่ามือ
จากตรงนี้นี่เองทำให้เราพบว่า แล้ว の หายไปไหนกันนะ…
ดั้งเดิมแล้วแล้วมันก็มีการเขียน の อยู่ในคำนั่นแหละครับ โดยที่
山の手 มันก็จะถูกแปลตรงตัวว่ามือของภูเขา ซึ่งจะหมายถึงพื้นที่บริเวณเนินเขาทางทิศตะวันตกของพระราชวังอิมพีเรียล ซึ่งแม้จะไม่ได้มีหลักฐานกำหนดพื้นที่ไว้แน่ชัด แต่ก็คาดว่าจะอยู่ในบริเวณของเขต Yotsuya, Aoyama, Ichigaya, Koishikawa and Hongō
ตรงนี้คุณ Hide ซึ่งเป็นคนญี่ปุ่นที่มาเล่น duolingo ได้มาช่วยให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า
ความหมายดั้งเดิมของคำว่า 山の手 นั้นจะหมายถึง กลุ่มคนที่มีฐานะที่พักอาศัยอยู่ที่เนิน ขณะที่สถานที่ที่คนทั่วไปจะพักอาศัยนั้นจะใช้ว่า 下町 ( shita-machi) (Downtown Area)
แล้ว の มันหายไปไหน ก็มีข้อสันนิษฐานจากคุณ Ki_Ki_Ki จาก portal ของ hinative.com ว่า
ในอดีตมักจะมีการกร่อนคำว่า の ที่อยู่ระหว่างคำที่เป็นคันจิออก ทั้งนี้เพราะว่าในอดีตจะมีญี่ปุ่นเริ่มด้วยการใช้ตัวอักษรคันจิที่รับอิทธิพลมาจากประเทศจีน และมีตัวอักษรฮิรางานะขึ้นมาหลังจากนั้น ทำให้คำหลายๆคำ จะคงรูปแบบเดิมที่เป็นอักษรคันจิต่อเนื่องกันไป
อีกทั้งในช่วงแรกของการมาของตัวอักษรฮิรางานะนั้นไม่เป็นที่นิยมในบรรดาชนชั้นสูง หรือผู้มีการศึกษาในช่วงนั้น ทำให้การนำมาใช้ไม่ค่อยดีนัก
โดยคำศัพท์ญี่ปุ่นโดยเฉพาะในช่วงก่อนศตวรรษที่ 12 ก็จะมีลักษณะคล้ายๆ กัน
ตัวอย่างคำที่มีลักษณะที่คล้ายกันเช่น
- 小野妹子(Ono-no-Imoko, around 7th century)
- 藤原道長(Fujiwara-no-Michinaga, 966–1028)
- 源義経(Minamoto-no-Yoshitsune, 1159–1189)
นอกจากนี้ยังพบว่าบางคำก็เป็นคำที่เจอบ่อย แต่ก็ละไว้ก็ยังเป็นที่เข้าใจในปัจจุบันเช่น
- 井上 ( いのうえ, Inoue) เป็นชื่อที่ป็อบปูล่าร์ชื่อหนึ่งในญี่ปุ่น
- 尾道 (おのみち, Onomichi) เมืองหนึ่งในจังหวัดฮิโรชิม่า
ในปัจจุบันการทำในลักษณะนี้ก็ไม่ค่อยได้รับความนิยมแล้ว เพราะมันทำให้อ่านยาก ทำให้การใช้ の ซ่อนเริ่มน้อยลง แต่บางคนก็รู้สึกว่ามันไม่เท่เท่าไหร่ที่จะมี の โผล่มาดังนั้น เขาจึงแก้เกี้ยวด้วยการใช้คันจิ 之, 乃 หรือ ใช้คาทาคานะ ノ แทน ซึ่งก็ทำให้มีกิมมิคมากว่าการใช้ の นั่นเอง
ขอบคุณ Duolingo ที่มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากการสงสัยของผู้เล่นในเรื่องนี้ครับ คือถ้าไม่คิดนี่ก็มองข้ามเหมือนกันว่า มันไม่เคยมีในคำมัน
ที่มา