คำทำนายที่เป็นจริง

--

ในปี 1964 Gordon E. Moore อดีตซีอีโอ และผู้ก่อตั้งบริษัทอินเทล ได้อธิบายกฎๆหนึ่งว่า ความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์ ในวงจร IC จะเพิ่มขึ้น 2 เท่าในทุก 2 ปี เรามันจะเรียกกฎนี้ว่า Moore’s Law

ซึ่งกฎข้อนี้เกิดขึ้นจากการดูแนวโน้มในอดีตและคาดการณ์แนวโน้มในอนาคต ซึ่งแตกต่างจากกฎทางฟิสิกส์โดยปกติที่ต้องใช้การพิสูจน์หลักฐาน ต่างๆ นานา

และถึงแม้ว่า Moore’s law จะเป็นเพียงการนำเอาข้อสังเกตจากในอดีตมาคาดคะเนแนวโน้มก็ตาม แต่มันก็ยังคงเป็นไปตามนั้นตั้งแต่ 1975 จนถึงในปัจจุบัน (แม้จะเริ่มช้าลงแล้วก็ตาม)​

อะไรคือสิ่งที่ทำให้ Moore’s law ยังคงความเป็นตัวมันอยู่ แน่นอนว่าเทคโนโลยีก็เป็นส่วนหนึ่งในการทำให้รักษากฎนี้อยู่ อย่างไรก็ตาม เหนือกว่าเทคโนโลยีก็คงเป็นนักพัฒนาที่ยังคงมีส่วนร่วมในการพยายามท้าทายและรักษา การมีอยู่ของกฎข้อนี้ ทั้งทางตรงและทางอ้อม

ซึ่งบางครั้งกฎนี้ก็เป็นเป้าหมายอีกแบบหนึ่งที่บางคนต้องการที่จะเดินตามหรือรักษามันไว้ด้วยความต้องการที่แข็งแกร่ง

หลายครั้งคำนายต่างๆ ก็เหมือนกับ Moore’s law นี่แหละครับ มันคือเป้าที่จะวิ่งเข้าไปหามัน เพื่อที่จะสร้างความฝันอะไรที่ยิ่งใหญ่

ในวงการดนตรีน้องคนที่น่านับถือคนหนึ่งคือหนุ่ม The Voice 3 ซึ่งเคยโพสต์ตั้งแต่ปีก่อนว่าจะมา The Voice ให้ได้

ที่มา: ผู้จัดการ

หรือแม้กระทั่งวงการฟุตบอล ความเป็นพระเจ้าของสลาตัน อิบราฮิโมวิช ก็ไม่ใช่เพราะเขาเป็นพระเจ้า แต่เพราะเขาตั้งใจจะเป็นพระเจ้าต่างหาก

คำทำนาย ไม่ได้ต่างจากเป้าหมาย ตามใดที่เราเชื่อมั่น และเดินตาม ก็มีโอกาสที่มันจะมาเป็นจริงได้

อย่างไรก็ตาม ถ้าเราเชื่อว่ามันจะไม่เป็นจริง มันก็จะไม่เป็นจริงเช่นเดียวกัน

เช่น ถ้ามีใครบอกว่า วัคซีนยุโรปคงจะได้ประมาณช่วงตุลาฯ มันก็คงได้เดือนตุลาฯ

แต่บางประเทศบอกว่าจะได้ในอีก 2 เดือน เขาก็จะได้ในอีกสองเดือน

ทั้งหมดนี้ บางครั้งปัจจัยภายนอกอาจจะเป็นเรื่องรอง

แต่ใจถึงหรือเปล่า นั่นแหละเรื่องจริง…

--

--

Teerayut Hiruntaraporn
Teerayut Hiruntaraporn

No responses yet