ทำไม Bad Strategy ถึงมีเยอะแยะ

Teerayut Hiruntaraporn
1 min readMar 10, 2021

--

เรื่องนี้มาจาก บทที่ 4 ของหนังสือ Good Strategy Bad Strategy ของ Richard Rumelt

สาเหตุในการเกิด Bad Strategy

Bad Strategy เกิดจากความพยายามที่จะหลีกเลี่ยงอุปสรรคเพื่อที่จะหา Good Strategy ในการที่จะได้มาซึ่งยุทธศาสตร์ที่ดีนั้น จะเป็นต้องใช้แรงกายแรงใจมากมายถึงจะเจียระไนแผนการที่ดีขึ้นมาได้ การหลีกเลี่ยงอุปสรรคนี้เป็นปัจจัยที่สำคัญเหนือ ตรรกะ,​การวิเคราะห์ หรือ ทางเลือกใดๆ

ซึ่งผู้เขียนได้ยกรูปแบบของ Bad Strategy ขึ้นมา 3 แนวทางดังนี้

1. เกิดจากความยากในการเลือกทางเลือก

เมื่อถึงเวลาที่ตัองเจอกับการตัดสินใจในทางเลือกบางอย่าง บางคนก็พยายามที่จะหลีกเลี่ยงไม่เลือก อาจจะด้วยเหตุผลหลายประการ สุดท้ายจึงนำมาสู่การ compromise ขึ้นมา

ทางผู้เขียนแนะนำว่า การเกิดขึ้นมาของ Choice แปลว่าเราต้องทำการเลือกมันขึ้นมา ถ้าไม่เลือกจะเกิดความคลุมเครือในการตัดสินใจ และทำให้ไม่ focus ได้

ตัวอย่างเช่น กรณีของ DEC ซึ่งเป็นบริษัทคอมพิวเตอร์ชื่อดังในอดีต ที่มีความลังเลระหว่างการเลือกแนวทางของบริษัทระหว่าง Boxes , Solutions หรือ Chips สุดท้ายก็เลยเลือกที่จะทำทั้งหมด ซึ่งผลของมันคือ การไม่ focus ว่าจะทำอะไรแน่

ขณะที่บริษัท Intel ในช่วงนั้นที่ Andy Grove ก็เหตุให้ต้องเลือกแนวทางของบริษัทจะเปลี่ยนสินค้าจาก DRAM เป็น Microprocessor แม้ว่าตอนนั้น DRAM จะมีรายได้เป็น 90% ของรายได้ทั้งหมดของ Intel ก็ตาม แต่ในช่วงเวลานั้น บริษัททำ DRAM ของญี่ปุ่นเริ่มตีตลาดด้วยต้นทุนที่ถูกกว่า

คำแนะนะของผู้เขียนเกี่ยวกับเรื่องทางเลือกนี้คือ

Strategy เกิดจากความขาดแคลนไม่ใช่ฝัน จึงต้องเลือกบางสิ่งและทิ้งบางอย่าง

2. Template-style Strategy

อันนี้จะท่าที่เรามักจะเจอกันประจำคือ ลักษณะของการเติมคำในช่องว่าง โดยใช้ one-size-fit-all Template นั่นเอง เช่น การเขียน vision , mission, value, strategies

อีกกรณีคือ การนำโดย charismatic leader ซึ่งแต่ไม่ได้เตรียมแผนมาดีๆ Leader ประเภทนี้จะมีความสามารถในการบอกเป้าหมายและโน้มน้าวให้ผู้คนตามเขาได้ แต่แต่ถ้าไม่ได้กำหนดวิธีการที่ถูกต้องก็จะสร้างปัญหาได้

ในหนังสือเปรียบเทียบเหตุการณ์ Little Crusade กับเหตุการณ์ของมหาตมะ คานธี ซึ่งผู้นำทั้งสองเหตุการณ์เป็นลักษณะของ Charismatic Leader ทั้งคู่ แต่ทางฝั่งคานธีจะมีการเตรียมแผนรองรับที่ละเอียด จึงทำให้ไม่เกิดปัญหามากนัก ขณะที่ เรื่องของ Little Crusade นั้นจบด้วยความเศร้าเพราะมีเด็กที่ตามผู้นำ เสียชีวิตไปหายคน

ดังนั้นในส่วนของ Charismatic Leader นั้นจะต้องประกอบด้วย 2 ส่วน

  • Leadership คือทำให้คนรู้สึกเป็นบวกกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
  • Strategy คือการหาว่า Purpose ไหนที่ควรค่าต่อการเดินทางไปคว้า และสำเร็จได้

3. แนวความคิดบวก ปลุกยักษ์ หรือกฎแรงดึงดูดต่างๆ

หลายคนมักจะเอา Quote หล่อๆ มาเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน

อย่างไรก็ตามแนวความคิดที่ว่า “การคิดว่าเราจะประสบความสำเร็จ จะทำให้ตัวเองประสบความสำเร็จ” มันเป็นการสะกดจิต ไม่ใช่วิธีการทาง Management หรือ Strategy แต่อย่างใด

สิ่งที่น่ากลัวสำหรับวิธีการนี้คือ การทำให้คนละเลย ไม่สนใจ Critical Thinking หรือ Good Strategy

ขอทิ้งท้ายแนวคิดของผู้เขียนเกี่ยวกับ Strategy ไว้ว่า

Strategy focuses resources, energy ,and attention on some objective rather than other

ที่มา

  1. Good Strategy Bad Strategy , Richard Rumelt

--

--

Teerayut Hiruntaraporn
Teerayut Hiruntaraporn

No responses yet