น้ำหนักกระเป๋า 23–32 มาจากไหน
ถ้าใครเคยเดินทางด้วยเครื่องบิน และมีการโหลดกระเป๋า ก็มักจะพบกับข้อกำหนดว่ากระเป๋า1 ใบ ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 23 กิโลกรัม หรือถ้าซื้อน้ำหนักเพิ่มก็จะไม่เกิน 32 กิโลกรัมได้ แล้วเลขนี้มาได้อย่างไรกันนะ
เรื่องนี้ก็มาโดยพี่ใหญ่ของวงการ คือ หน่วยงานที่ชื่อ IATA โดยกำหนดให้ กระเป่า 1 ใบนี้ควรมีน้ำหนักไม่เกิน 50 ปอนด์ หรือ 23 กิโลกรัม
ทั้งนี้จะเป็นกฎสากล เพื่อปกป้องและดูแลสุขภาพและความปลอดภัยให้กับพนักงานสนามบินที่ต้องขนกระเป๋าต่อวัน เป็นร้อยๆ ใบต่อหนึ่งวัน
อย่างไรก็ตาม เรายังสามารถที่จะใส่น้ำหนักเพิ่มต่อได้ แต่เงื่อนไขคือ จะต้องระบุที่กระเป๋าด้วยว่า “Heavy” เพื่อแจ้งพนักงานให้รับทราบและระมัดระวังกับกระเป่านี้
โดยจะมีน้ำหนักที่มากที่สุด คือ 70 ปอนด์ หรือ 32 กิโลกรัม นั่นเอง
IATA has guidelines for baggage but the number and weight of baggage allowed free of charge can vary by airline, frequent flyer status, routing and fare. To avoid additional costs, please check with your airline before you travel so that you are fully aware of the checked baggage allowance included with your airfare.
Each bag should weigh less than 23KG/50LBS. This is an international regulation set for the health and safety of airport workers who have to lift hundreds of bags daily. If your bag weighs more than this, you may be asked to repack, or have it labeled as "heavy luggage".The maximum weight for one bag is 32KG/70LBS in the EU and the US. Some airlines impose lower limits.
แล้วเลข 23 กับ 32 ได้มาอย่างไรบ้าง ที่เป็นไปได้ตอนนี้คือ มาจาก สูตรของ The U.S. National Institute for Occupational Safety and Health (NIOSH) ครับ
โดยสูตรนี้บอกว่า
เมื่อ
RWL = Recommend Weight Limit
LC is a load constant of 23 kg (~51 lb)
HM is the horizontal multiplier
VM is the vertical multiplier
DM is the distance multiplier
AM is the asymmetric multiplier
FM is the frequency multiplier
CM is the coupling multiplier
ซึ่งเมื่อ ทุก factor เป็น 1 ทั้งหมด ก็จะได้เป็น 23kg พอดี
อย่างไรก็ตาม การคำนวณนี้ก็มีเงื่อนไขคือ การยกจะอยู่ในสถานการณ์ที่ดี
- ใช้ 2 มือ
- ทำงานใน 8 ชั่วโมง
- พื้นที่ทำงานไม่เป็นอุปสรรค
- ยืนได้มั่นคง
- ฯลฯ
โดยทั้งหมด ก็จะมีวัตถุประสงค์เดียวกันคือ เพื่อให้พนักงานทำงานได้อย่างปลอดภัยและ ลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บ หรือความเจ็บปวดเรื้อรังที่จะเกิดขึ้นนั่นเอง
ดังนั้น ในฐานะผู้เดินทาง จึงแนะนำว่า pack กระเป๋า ก็อย่าเกินค่าที่ว่ามา นอกจากเราจะเดินทางอย่างมีความสุขไม่ปวดหัวแล้ว ยังช่วยให้คนที่อยู่เบื้องหลังที่ทำให้เราเดินทางได้สะดวก ปลอดภัย สามารถทำงานต่อไปอย่างมีสุขภาพที่ดีไปเรื่อยๆ ได้ครับ