พฤติกรรมที่ควรจะเช็คว่าเราเป็นผู้จัดการประสิทธิภาพสูงหรือไม่

เรื่องนี้เอามาจากบทความของ HBR เรื่อง How to Improve at work when you’re not getting feedback ของคุณ Jack Zenger และ Joseph Folkman พิมพ์ในวันที่ 9 พค. 2017

ที่มาของบทความนี้คือ ถ้าเราไม่เคยได้รับ Feedback จากหัวหน้างานเลย มีทางไหนที่เราจะเติบโตได้เป็นหัวหน้าที่ทำงานได้ดีขึ้นได้บ้าง

ทางผู้เขียนจึงไปเก็บข้อมูลเกี่ยวกับ Performance Evaluation ของพนักงาน( Individual Contributor) 7,000 คนและผู้จัดการ 5,000 คน แล้วก็พบรูปแบบที่คล้ายคลึงกัน เป็น กลุ่มขึ้นมา ดังนี้ครับ

1. Delivering result: ส่งงานได้ตามที่ได้รับมอบหมาย โดยมีหลักใหญ่คือส่งงานในเวลาที่กำหนด และมีคุณภาพสูง
2. Being a trusted collaborator: คนที่มีประสิทธิภาพสูงมักจะเป็นคนที่ได้รับว่าเชื่อใจสูง คนนั้นจะมีความสามารถด้านการสื่อสาร และสามารถแลกเปลี่ยนประสานงานระหว่างกลุ่มหรือทีมได้ จึงได้รับความเชื่อมั่นเวลาที่ตัดสินใจอะไร
3. Having Strong Technical / Professional Expertise: คนเหล่านี้มีความสามารถ มีความเชี่ยวชาญในขอบเขตงานของตัวเอง โดยหลักๆ คือมีความลึกซึ้งกับงานนั้นจะมีความได้เปรียบกว่าคนที่รู้อะไรผิวๆ ขณะที่อีกมุมนึงก็ต้องเป็นคนที่เรียนรู้สิ่งใหม่สม่ำเสมอ ไม่เช่นนั้นความชำนาญที่เคยมีก็จะเก่าล้าสมัยไป โดยเฉพาะในโลกยุคปัจจุบัน
4. Translating vision and strategy into meaningful goals: มีความเข้าใจเป้าหมายขององค์กร และนำเอาความเข้าใจนั้นมาสร้าง contribution เพื่อให้องค์กรบรรลุเป้าหมายได้
5. Marketing their work well: แม้ว่าจะมีคนบอกว่า งานที่ดีไม่จำเป็นต้องโฆษณา แต่ต้องไม่ลืมว่า ในมุมมองของหัวหน้ามัน จะมีผลงานที่ต้องการแย่งกันเพื่อที่จะให้หัวหน้างานเห็นตลอดเวลา ไม่ว่าของมันจะดีหรือไม่ดี แม้ว่าเราจะทำงานได้ดีแล้วก็ควรจะไปเสนอหน้าให้หัวหน้าเห็นบ้าง อย่างน้อยๆ ก็ขอให้พองาม ก็เพียงพอ

นอกจากนี้ ถ้าคุณอยู่ในสาย Manager แล้ว คุณอาจจะต้องเพิ่มเติมอีก 2 เรื่องดังนี้ครับ

1. Speed: เนื่องด้วยข้อมูลปัจจุบันมีเยอะมาก ตลาดไปเร็วมาก การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลา ความเร็วในการ execute จึงเป็นสิ่งที่สำคัญของ Manager มากขึ้น ทีจะต้อง Execute ให้เร็วพอสำหรับธุรกิจ
2. Inspire and Motivate Others: ความสามารถนี้ถูกโหวตให้เป็นอันดับหนึ่งในทักษะที่มีความสำคัญที่สุดสำหรับระดับผู้จัดการ แต่เป็นทักษะที่ถูกโหวตว่ามีน้อยที่สุดเช่นเดียวกัน เรื่องนี้ก็สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่คนไม่ได้ถูก Drive ด้วยเพียงแค่เงินอย่างเดียวอีกแล้ว ยังมีเรื่องของ Purpose ต่างๆ ที่ทำให้พนักงานยอมทุ่มเทเพื่อที่จะสร้างสรรค์งานออกมาให้ดีเยี่ยมและสำเร็จ

ทั้งหมดนี้คือพฤติกรรมที่ควรจะลองตรวจสอบกันเรื่อยๆ ครับว่า เรามีอะไรแค่ไหนขาดอะไร จะได้พัฒนาให้มีความสามารถและคุณค่ามากขึ้นครับ