สรุป เรื่อง How to prioritize product backlog
อันนี้เป็นสรุปที่ได้ฟังมาจาก webinar: How to Prioritize Product Backlog from BCG PMs ของ Product School ใน Youtube ครับ ซึ่งส่วนตัวมองว่าวิธีคิดนี้สามารถใช้มากกว่าแค่ Backlog ได้ อาจจะเป็นวิธีการตั้งเป้าหมายส่วนตัว หรืองานที่ต้องทำเพื่อบรรลุเป้าหมายอื่นๆครับ
Backlog คืออะไร
เขาให้คำจำกัดความง่ายๆ ว่า Backlog คือ “รายการของงานที่ยังไม่ได้ทำ” โดยรายการนั้นจะมีการเรียงลำดับว่าอะไรต้องทำก่อนทำหลัง
ซึ่งคำว่างานนั้น ในที่นี้จะมีความหมายถึง “‘งานที่เป็นประโยชน์ต่อผลิตภัณฑ์” ทั้งในตอนนี้และอนาคต เช่น
- การเพิ่มความสามารถใหม่
- การคิดไอเดียใหม่ เช่น การทดสอบสมมติฐานที่นำไปสู่ฟีเจอร์ใหม่
- การแก้ไขปัญหาหรือ Bugs ต่างๆ เช่นแก้ปัญหาที่ลูกค้าใช้งานไม่ได้
- การปรับจูนต่างๆ ทางเทคนิค เช่น เพิ่มประสิทธิภาพ การเพิ่มระดับความปลอดภัย
โดยรายการที่ได้นี้ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต ซึ่งตรงนี้ทางทีมจะต้องทำการทบทวนรายการต่างๆ ว่า ในตอนนี้รายการเหล่านี้ยังคงสอดคล้องกับเป้าหมายผลิตภัณฑ์ที่เราต้องการอยู่หรือไม่
ทั้งนี้เพื่อให้เราสามารถเลือกเอาทรัพยากรมาจัดสรรให้เหมาะสม
ยกตัวอย่างเช่น ในช่วงเดือนที่ผ่านมา บิตคอยน์กำลังมาแรง เราอาจจะเพิ่มแผนการเตรียมพัฒนาฟีเจอร์การเชื่อมต่อการชำระเงินด้วยบิตคอยน์อยู่ในรายการ และให้ความสำคัญในระดับที่ต้องทำในไม่ช้า แต่อยู่ๆ ปรากฏว่าคนเริ่มหนีห่างบิตคอยน์กระทันหันเพราะราคามันถล่มลงมา เมื่อถึงเวลารีวิวรายการ ทีมอาจจะเห็นว่า น่าจะอีกนานที่คนจะกลับมาเล่น ก็อาจจะปรับฟีเจอร์นี้ไปอยู่ท้ายๆ แล้วให้ความสำคัญกับงานอื่นๆแทน
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการลำดับความสำคัญของ Backlog
ในการที่จะเลือกว่า งานไหนจะมีความสำคัญมาก สำคัญน้อย จำเป็นต้องมีหลักการในการคัดเลือก โดยในภาพใหญ่นั้น จะมีปัจจัยที่ควรจะนำมาคิดดังนี้
1. Commercialization Target งานนั้นได้ประโยชน์ทางธุรกิจแค่ไหน เช่น ทำแล้วคนจะใช้เพิ่ม , ทำแล้วจะรักษาลูกค้าไม่ให้ไปใช้งานเจ้าอื่น หรือ ถ้าทำแล้วสามารถทำให้ผู้สนใจหันมาใช้งานสินค้าของเราได้
2. Risk Mitigation — งานนั้นลดความเสี่ยงอะไรบางอย่างทางธุรกิจ เช่น งานนั้นจะทำให้สอดคล้องกับกฏหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA , งานนั้นจะทำให้ผู้ใช้มีความปลอดภัยมากขึ้น , หรือการปรับฟีเจอร์เพื่อตอบสนองแนวโน้มของผู้บริโภค เช่น ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจะเห็นข่าวของ Youtube กำลังจะเปิด feature ซื้อของ ซึ่งก็จะตอบสนองกับแนวโน้มทางการตลาดที่หลายๆ Platform จะเริ่มเสริมความสามารถด้าน Marketplace เข้าไป
3. Financial Consideration — งานนั้นช่วยทำให้สถานะทางการเงินดูดีขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นทั้งทางตรง เช่น ถ้าทำงานนี้แล้วจะสามารถลดการใช้งาน Cloud Service ลง 4 เท่า หรือทางอ้อมเช่น ทำให้ระบบ maintain ได้ง่าย หรือ deliver ได้ง่ายหรือการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบ
4. Resource Consideration — งานนั้นสอดคล้องกับทรัพยากรที่มีอยู่ในปัจจุบัน เช่น งานนั้นสอดคล้องกับโหลดของพนักงาน หรืองานนั้นยังคงใช้ skill set ที่มีในปัจจุบันของพนักงาน
5. Stakeholder — งานนั้นทำให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมีความสุข หรือรู้สึกมีส่วนร่วมหรือไม่
ขั้นตอนในการทำ Prioritization
ทีนี้เราจะเริ่มต้นอย่างไรดี เขาก็มีแนวทางให้ดังนี้ครับ
- ประเมินสถานการณ์ของ Backlog ที่มีตอนนี้ก่อน เช่น มีกี่งานแล้ว งานนั้นมีอัตราส่วนของ functional กับ Non-functional แค่ไหน ที่มาของงานเป็นยังไง เช่นมาจากลูกค้ารายงานบั๊กมา หรือว่าเป็นงาน research หรือว่า เป็น feature ใหม่
- ดู life-cycle ของ product ว่าสถานะอยู่ที่ไหน เพราะในแต่ละจุดก็มีเป้าหมายที่จะต้องบริหารจัดการที่แตกต่างกัน เช่น Product ในช่วง Decline ก็น่าจะมีแผนในการทำ Feature ใหม่น้อยกว่า Product ที่อยู่ช่วงเริ่มต้นหรือช่วงเติบโต
3. Business Goal งานที่ทำต้องการที่จะบรรลุเป้าหมายอะไรในทางธุรกิจ เช่น ไปสู้ใน Market Segment ใหม่ หรือ เพิ่มรายได้
4. Consolidate Backlog รวบรวม Backlog ให้อยู่ในที่เดียวและสามารถแชร์ให้กับผู้ร่วมงานได้ง่ายๆ เช่น เขียนบนกระดาน หรือใช้ Software พวก Trello , Asana เป็นต้น
5. เลือกรูปแบบในการทำ Prioritize งาน โดยแต่ละรูปแบบมีจุดเด่นจุดด้อยที่แตกต่างกันในแต่ละสถานการณ์ โดยมีดังนี้
- Stack Ranking —เป็น แบบที่ง่ายที่สุด โดยเอารายการมาอยู่ในลำดับแถวเดียวกันหมดแล้วจัดลำดับความสำคัญ
- MOSCOW — แบ่งรายการเป็น 4 แบบ คือ Must have, Should have, Could have และ Don’t have
- Kano Model — เป็นรูปแบบที่ Focus ที่ผู้ใช้งาน
- Story Mapping — เป็นการสร้าง Story รอบๆ User Journey
- Weight Scoring — นำเอาแต่ละฟีเจอร์มาใส่ คะแนนตาม Criteria ต่างๆ
เดี๋ยวรายละเอียดของการจัดลำดับแบบต่างๆ จะมาลงรายละเอียดในภายหลังครับ
โดยสรุป นี่คือภาพรวมของการจัดลำดับความสำคัญของ Backlog ครับ
ที่มา
- Webinar: How to Prioritize Product Backlog from BCG PM, Iuliia Artemenko & Chris Roberts, Product School, https://youtu.be/QlSe2ZnVkFw
- The product life cycles, https://courses.lumenlearning.com/boundless-marketing/chapter/product-life-cycles/